สาทรถือเป็นถนนที่ได้ชื่อว่ารถติดที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถ้าจะเลี่ยงรถติด คุณต้องขับรถออกจากบ้านก่อน 6 โมงเช้า ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจะขับรถมาส่งลูกหลานที่โรงเรียนดังย่านนี้ หรือไม่ก็ช่วงสายๆ หลัง 10 โมงตอนที่คนทำงานเขาเข้าตึกสำนักงานกันหมดแล้ว แต่เผอิญว่าผมต้องใช้เส้นทางนี้เพื่อเข้าเมืองเป็นประจำ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเหมือนคนอื่นทั่วไป วันไหนโชคดีที่ไม่มีสัมภาระต้องหอบไปมา ก็จะพึ่งบริการ BTS นี่แหละ เซฟสุดและชัวร์สุด
มีอยู่วันหนึ่งขณะมุ่งหน้าเดินทางไปสวนลุม ก็สังเกตเห็นแท่งตึกสีดำตั้งตระหง่านอยู่หัวมุมถนนสาทรตัดพระราม 4 เออมันดู Chic ดี พอรู้ว่าลูกค้า Wisdom ธนาคารกสิกรไทยสามารถมาใช้บริการ Fitness และ Lounge ได้ที่โรงแรม Sofitel So Bangkok แห่งนี้ แอบดีใจ ช่วงแรกมา Check-in ใช้บริการที่นี่แทบจะวันเว้นวัน
วันไหนต้องการแรงบันดาลใจในการเขียนบทความ หรือปั่นงานส่งลูกค้า ผมก็จะมานั่งทำงานที่ Wisdom Lounge สุดไฮโซที่ชั้น 12 ของโรงแรม วันไหนต้องการพักผ่อน ก็จะแวะมาออกกำลังกาย ด้วยการวิ่งและว่ายน้ำ ที่ So Fit ซึ่งอยู่ชั้นที่ 10 มีอยู่บางวันเหมือนกันที่หมกตัวอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน นั่งเตรียมงานที่นี่ตอนเช้า พอตอนสายก็นั่ง MRT จากสถานีลุมพินีไปสุขุมวิท รัชดา เพื่อไปพบลูกค้า แล้วค่อยแวะกลับมาทำงานหรือว่ายน้ำต่อในช่วงเย็น มันเป็นอะไรที่เวิร์คและลงตัวมาก มีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมต้องแวะเวียนกลับมาที่นี่บ่อยๆ คือพลังธรรมชาติและแรงบันดาลใจที่ได้จากการทอดสายตาชมวิวสวนลุมด้วยความรู้สึกโล่งและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยคิดว่าสวนสาธารณะที่ใครๆ ก็รู้จักจะงดงามได้เพียงนี้เมื่อได้มาชม ณ จุดนี้ นี่ถ้าได้วิวนี้จากห้องนอนของตัวเองล่ะก็ มันคงทำให้ผมอยู่ติดบ้าน ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาสถานที่นอกบ้านในการทำงานเหมือนเช่นทุกวันนี้
ผมเคยเขียนบทความเรื่อง “So High กับนาย Hi So” ไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม กับประสบการณ์การทำงาน (ที่ Wisdom Lounge) การกิน (ที่ Red Oven และ Park Society) และการออกกำลังกาย (So Fit) ที่นี่ วันนี้กลับมาอีกครั้งกับประสบการณ์การได้มาพักค้างคืนที่นี่ ขอบคุณโปรโมชั่นบัตรเครดิตของ Wisdom กสิกรไทย ที่ทำให้ได้รับ Package-Fantastic Four ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Complimentary One Night Stay at So-Cosy Room) และส่วนลด 50% ของการใช้คอร์สสปา ที่ So Spa
ถ้าพร้อมแล้ว ลองมาทำความรู้จักกับโรงแรมนี้กันอีกสักนิดครับ
Sofitel So Preview-The 5 Elements
โรงแรมนี้ไม่เป็นเพียงโรงแรมที่สวย แต่ว่ามีคอนเซปต์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ลงทุนใช้ดีไซน์เนอร์ชื่อดังหลายคนในการออกแบบและตกแต่งห้องพักตามธาตุทั้ง 4 ได้แก่ Wood (ธาตุไม้), Earth (ธาตุดิน), Metal (ธาตุโลหะ) และ Water (ธาตุน้ำ) ส่วนอีกหนึ่งธาตุคือ Fire (ธาตุไฟ) เป็นธาตุที่อาจไม่เหมาะกับห้องพัก จึงนำมาใช้กับห้องอาหารแทน มาชมภาพของห้องพักแทนการบรรยาย กันดีกว่า ก่อนจะบุกเข้าห้องนอนของซุปตาร์
So Surprised กับประสบการณ์ที่ประทับใจที่ Sofitel So Bangkok
ผมลองเข้าไปอ่านรีวิวของ Trip Advisors จากจำนวน 219 รีวิว แขกที่มาพักให้คะแนนดีมากถึงยอดเยี่ยมสูงถึง 83% ในขณะที่เวบ Agoda ให้คะแนนเฉลี่ยไว้สูงถึง 8.3 ในฐานะผู้ใช้บริการคนหนึ่ง ผมให้คะแนน 8.5 เต็ม 10 จาก 3 ปัจจัยคือ กระบวนการโดยรวมนั้นดูราบรื่นดี (ตั้งแต่การติดต่อสอบถามข้อมูล, การทำ Booking, การ Check-in, การแนะนำห้องพัก ตลอดจนการ Check-out) ห้องพักก็ดูสะอาดฉลาดสมชื่อ (ความใส่ใจในรายละเอียด ด้วยอุปกรณ์/เครื่องมือทืี่ครบครัน แถมยังดูดีมีรสนิยมอีกด้วย) ส่วนปัจจัยสุดท้ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โรงแรมนี้มีชีวิตชีวาคือ ทักษะความสามารถและความเอาใจใส่ในงานบริการของบุคลากร (ตั้งแต่ รปภ. พนักงานต้อนรับ พนักงานที่สปาและฟิตเนส)
Surprise 1: So Efficient Service Process
โดยปกติแล้วการสำรองห้องพักด้วย Voucher จะต้องทำล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ เนื่องจากคิวเดินทางผมค่อนข้างแน่น เลยลองโทรเช็คเล่นๆ ว่าสามารถทำ Booking ภายใน 3 วันได้รึเปล่า พอโทรเข้าไปที่ Reservation Office พนักงานแจ้งว่ายังพอมีห้องพักว่างอยู่ในวันที่ผม Request (ผมเลือกพักในคืนวันอาทิตย์ซึ่งแขกส่วนใหญ่น่าจะทะยอย Check-out กันแล้ว) พนักงานขอให้ผมทำการอีเมล์หน้า Voucher เพื่อทำการสำรองห้องพักให้ก่อน ในวันรุ่งขึ้นผมได้รับอีเมล์ยืนยันพร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับเข้าพัก โรงแรมส่งข้อมูลเกี่ยวกับธีมของห้องมาให้เลือกสำหรับ So Cosy Room ผมระบุห้องสไตล์ Wood Element ไว้เพราะคิดว่าดูเรียบหรูที่สุดแล้ว (ผมเชื่อว่าแบบนี้น่าจะ Popular กว่า Metal & Earth elements)
และแล้วก็ถึงวันที่ทำการ Check-in พนักงานต้อนรับก็ดูแลเป็นอย่างดี พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มสมุนไพร (น้ำอัญชันผสมมะนาว) ให้จิบระหว่างที่รอเตรียมห้อง ตอนเข้าพักจะมีพนักงานสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม Escort ขึ้นไปพร้อมอธิบายฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในห้อง บอกได้สามคำตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง Oh Wow, oH woW, OH WOW (โปรดติดตามตอนต่อไป)
Surprise 2: So Smart Rooms
ผมพักอยู่ที่ห้อง 1815 ใกล้กับลิฟท์ ห้อง So Cosy นี้เป็นห้อง Studio ที่มีขนาด 38 ตรม. หันหน้าออกไปฝั่งถนนสาทร ห้อง Wood Element จะตกแต่งด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ชนิดต่างๆ ที่ใช้โทนสีเบสของไม้เป็นหลัก ดูอบอุ่นและไม่เวอร์จนเกินไปนัก จริงๆ ผมอยากได้ห้องที่เป็นวิวสระน้ำและสวนลุมมากกว่า แต่ห้องประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง suite ที่ไม่ต้องบอกก็คงพอรู้ว่าห้องนั้นจะกว้างกว่า หรูเลิศกว่า และก็แพงกว่า ได้แค่นี้ก็นับว่าเป็นวิมานของคนไฮโซ(ปลอมๆ) อย่างเราแล้ว
ผมเชื่อว่าถ้าใครมีโอกาสได้มาพักที่นี่ คุณอาจจะลืมห้องนอนที่บ้านไปได้ชั่วขณะ เพราะเขามีของเล่นสนุกๆ ให้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น LCD TV ขนาด 40 นิ้ว ที่ควบคุมการทำงานด้วยเครื่อง Apple Mac Mini Multimedia Entertainment ที่สามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลง เช็คอีเมล์ เล่นอินเทอร์เน็ต Facebook, Twitter, Youtube อยู่ในเครื่องเดียว แถมยังมี Keyboard ไร้สายให้ต่อใช้เล่นเน็ตได้อยู่บนเตียงนอนเสร็จสรรพ
สำหรับสัญญาณ Wifi ก็ไม่ต้องขอ เพราะว่าตอนคุณ Check-in โรงแรมจะออกรหัส Wifi ให้อัตโนมัติ ซึ่งคุณสามารถเช็คดูได้บนหน้าจอทีวี แถมยังสามารถปล่อยสัญญาณเพื่อใช้กับโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ Notebook ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเขาคิดทุกอย่างไว้หมดแล้ว สุดยอดไปเลยครับพี่น้อง!!!!!
และที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างก็คือ Free Private Mini Bar ของในตู้เย็นทั้งเครื่องดื่ม (มีน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำผลไม้ โซดาและกระทิงแดง) และขนมสารพัดชนิด (ส่วนใหญ่เป็นขนมขบเคี้ยวแบบไทยๆ พวกถั่วลิสง งาดำ) กินได้ฟรีหมดตู้ เป็นครั้งแรกที่เห็นโรงแรมใจป้ำให้แขกกิน Mini Bar แบบไม่คิดเงิน (จริงๆ คงบวกไว้หมดแล้ว ใช่มั๊ย?)
ห้องน้ำที่นี่ก็อย่างหรู มีทั้ง Bath Tub, Shower,Toilet และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อคลุม ตราชั่งน้ำหนักและของใช้ที่จำเป็นจุ๊กจิ๊กจัดใส่เป็นกล่องเป็นเซ็ตสำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย เป็น Amenities Set for Him & for Her ผมใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำความรู้จักและคุ้นเคยกับอุปกรณ์ทุกอย่างภายในห้อง ถือเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก ถ้ามีโอกาสได้กลับมาเสวยสุขที่นี่อีกครั้งก็คงจะดีไม่ใช่น้อย
Surprise3: So Friendly & Service-minded People
“Just say so” เป็นวลีฮิตที่ได้ยินคุ้นหูอยู่บ่อยมาก เมื่อมาใช้บริการที่โรงแรมนี้ ชื่นชมคนตั้งชื่อโรงแรมนี้โดยใช้คำว่า “So” เป็นคำขยายในทุกๆ อย่างที่นี่ So Lobby, So Fit, So Spa etc. เพราะคำๆ เดียวคำนี้แม้จะฟังดูแล้ว So So แต่พอไปใช้นำหน้าคำอื่น กลับทำให้รู้สึกดีค่อนไปทางบวก เช่น So beautiful, So Unique, So interesting etc. If you need our assistance, please just say So.
พนักงานที่นี่แต่งตัวดูดี มีเอกลักษณ์ สังเกตได้จาก Costume เครื่องแต่งกายที่ดู Unique มีคอนเซปต์ มีความเป็นไทยผสมความเป็นสากล การออกแบบอัตลักษณ์ต่างๆ ผ่านอุปกรณ์/เครื่องใช้ ทุกชนิดดูสอดคล้องและเป็นไปในทางเดียวกัน ผมสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร ความกระตือรือร้นในการให้บริการของพนักงานที่นี่ ตั้งแต่พนักงานต้อนรับ ไปถึงพนักงานที่ทำงานอยู่ใน Gym และ Spa ดูจากการพูดจาแล้ว พนักงานที่ดีดูจะมีรสนิยมความรู้และทักษะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานโรงแรมทั่วไป ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษได้อยู่ในเกณฑ์ดี ขอให้รักษามาตรฐานการบริการให้คงที่ รับรองคุณได้ผมเป็นลูกค้าประจำที่นี่ยาวแน่ๆ
ไหนๆ ก็มีโอกาสได้ไปแวะใช้บริการที่ So Spa มาแล้ว ผมขอแถมรีวิวแถมให้เพิ่มเติมอีกนิดนึงละกันครับ Signature A La Carte Menu ของ So Spa มี 3 คอร์สได้แก่ So Exhilarating Body Massage (เป็นการนวดผ่อนคลายที่มีลายเส้นไม่ซ้ำใคร มีการนำผ้ามาพันตัวคล้ายมัมมี่แล้วโยกตัวเพื่อเป็นการยืดเส้น ใช้หินร้อนในการกระตุ้นจุดต่างๆ แล้วนวดกระชับผิวด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันนวดอโรมาที่ทำให้เคลิ้มเพลินจนเผลอหลับไปเลย ใช้เวลา 60 นาที ราคา 2,900 บาท), So Rejuvenating Facial (เป็นโปรแกรมนวดหน้าที่มีการให้จิบน้ำผึ้ง ระหว่างการนวด ใช้แตงกวาและผลิตภัณฑ์ของ Cinq Mondes จากฝรั่งเศสในการบำรุงผิวหน้า กลิ่นหอม เบาและสดชื่นดี ใช้เวลา 60 นาที ราคา 2,900 บาท) ถ้าซื้อแพ็คเกจคู่ราคาจะถูกลงประมาณ 1,000 บาท ส่วนอีกคอร์สนึงเรียกว่า Serenity of Five Elements (อันนี้ยังไม่ได้ลอง รู้แต่ว่าเป็นการนวดที่ช่วยในเรื่องของระบบการไหลเวียน และการคลายเส้น/กล้ามเนื้อ และมีการประคบร้อนด้วยสมุนไพรด้วย โปรแกรมนี้ใช้เวลา 90 นาที ราคา 4,000 บาท) จบโปรแกรมการผ่อนคลายแต่เพียงเท่านี้ เอาเป็นว่ากลับบ้านตัวเบาสบาย นอนหลับฝันดี
ใครอยากติดตามข่าวสาร/กิจกรรม งานปาร์ตี้ต่างๆ ที่จัดขึ้นที่ Sofitel So Bangkok แนะนำให้ดูที่หน้า Facebook นะครับ
Sofitel So Gallery
Sarayut J. (@sarayut_j)
December 4, 2012 at 5:32 pm
Love your IG images!! ^^
@somchartlee
December 4, 2012 at 11:41 pm
thanks bro ^_^
POP
December 8, 2012 at 9:20 am
ต้องหาโอกาสไปเยือน..แบบค่างคืน ;-P