ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสที่ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นอยู่ 2 ร้าน ร้านนึงเคยได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่พึ่งจะได้มากินกับเขาเสียทีในช่วงปีใหม่ นั่นคือร้านโทคิยะของเสี่ยตัน ที่พยายามฉีกแนวทำเป็นร้านเสต้กแนวฟิวชั่นญี่ปุ่นประยุกต์ แทนการแข่งขายอาหารบุฟเฟต์ญี่ปุ่นแบบเดิมที่เคยทำมากับกับร้านโออิชิซึ่งตั้งอยู่ด้านตรงข้ามของชั้น M ของอาคาร Siam Discovery Center และอีกร้านนึง เป็นร้านโปรดของผม เขาเสิร์ฟซูชิทำใหม่สดให้กินกันอย่างไม่อั้น นั่นคือร้าน Drinking tea eating Rice ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในโรงแรมคอนราด เมนูโปรดของร้านทั้งสองจะเป็นอะไร จะคุ้มค่ากับเงินมั๊ย โปรดติดตามถึงตอนท้ายซึ่งผมได้เขียนรีวิวไว้ที่ Wongnai App บน iPhone
เอาล่ะถ้าหิวกันแล้วก็ตามมาดู มาชิม มาเชียร์กันครับ
โทคิยะ เซ็ตเมนูสุดคุ้ม อิ่มได้โดยไม่ต้องยัด (เยียด)
Tokiya Set Menu 499 Baht Net
ร้านโทคิยะชื่อเป็นญี่ปุ่นแต่อาหารที่เสิร์ฟดูจะผสมระหว่างความเป็นตะวันออกและตะวันตกที่เขาเรียกกันว่า East Meet West หากคุณมาทานที่นี่แล้วเจอคิวหน้าร้าน ให้บอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะว่าอาหารคอร์ส 8 เมนูที่เขาเสิร์ฟนั้นต้องใช้เวลาทานพอสมควร ไม่รีบร้อน เร่งรีบเหมือนกันกิน ชาบู สุกี้แบบจับเวลา ทางที่ดีแนะนำให้โทรจองก่อนก็ดี หรือไม่ก็เลือกวันเวลาที่คนเขาไม่แห่ไปกินกัน โชคดีครับวันนี้เรามากันสองคนและคิวก็ไม่ยาวมาก ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ได้โต๊ะที่นั่งแล้ว
มาเข้าใจธรรมเนียมการกินที่นี่นิดนึงครับ อาหารแบบ Set Course นั้นคือการเลือกสั่งตามเมนูที่กำหนดไว้ในแต่ละประเภทเท่านั้น อย่างที่นี่ Appetizer คุณไม่ต้องเลือกเลย เขามีเพียงเมนูเห็ดออรินจุปรุงรสซ้อสสไตล์โทคิยะผัดออกมาให้ทานเรียกน้ำย่อย ส่วนสลัด ซุป เมนูข้าว และของหวานนั้นจะมีให้เลือกมากหน่อย ส่วน main course ซึ่งเป็นประเภท หมู เนื้อ ไก่ ปลา แกะ จะมีให้เลือกเยอะสุด มาถึงตอนนี้คุณคงอยากรู้แล้วสิว่า มาที่นี่จะสั่งอะไรกินดีที่ “อร่อยสุดคุ้ม”
ถ้าอยากชิมตามรสชาติปลายลิ้นของผม ก็นี่เลยครับ (ดูเมนูที่ผมไฮไลต์เป็นตัวหนาครับ)
เมนูสลัด: มีให้เลือกอยู่ 4 ชนิดคือ สลัดมะเขือเทศไข่กุ้งมังกร ค๊อกเทลฟรุ๊ตสลัด สลัดเป็ดรมควัน และสลัดผักรวม
ซุป: ก็มีให้เลือก 4 แบบเหมือนกัน ซุปครีมล็อปสเตอร์ ซุปเนื้อโทคิยะ ซุปต้มโคล้งรสจัด และมิโสะครีมซุป
เมนูข้าว: มีให้เลือก 2 แบบ คือ ข้าวทอดญี่ปุ่นทรงเครื่อง (Yagi-Oigiri) และ ข้าวอบสาหร่ายปลากรอบ
น้ำผลไม้: Mulberry Vinegar Juice เป็นเครื่องดื่มรสชาติหวานเจี็๊ยบที่ตัดกับรสชาติเปรี้ยวของน้ำสัมสายชู กลิ่นมันแปลกดี ดูไม่เข้ากัน แต่กินได้ เขาแนะให้คุณจิบเพื่อการเตรียมลิ้นเพื่อชิมอาหาร main course ซึ่งจะถูกเสิร์ฟเป็นเมนูถัดไป
อาหารจานหลัก: มีให้เลือกถึง 11 อย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นคนชอบทานเนื้อประเภทไหน (มีเมนูเนื้อให้เลือก 3 แบบ หมู 2 แกะ 1 ปลา 2 ไก่ 1 และแบบผสมอีก 2 ชนิด) ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องการทานเนื้อสัตว์ผมอยากให้คุณลองเนื้อแกะครับ (Roasted Lamb Chops) ไม่มีกลิ่นเหม็นคาวเหมือนที่เขาเสิร์ฟกันในหลายร้าน และเนื่องจากผมไม่ทานเนื้อวัว เลยต้องสั่งหมูคุโรบูตะมาทาน (Kurobuta Steak) หมูนุ่มมากรสชาติใช้ได้แม้จะติดเค็มและมันละเลื่อมไปหน่อย ถ้าทานเนื้อทั้ง 3 ชนิดนี้ไม่ได้ จะสั่งเนื้อปลาหรือไก่มาทานคงไม่มีใครห้าม แต่ผมว่ามันดูไม่ค่อยคุ้มค่า และน่าเสียดายที่มากินไก่และปลา ณ ที่แห่งนี้
ของหวาน: มีให้เลือก 4 แบบเช่นกัน Milk Panna Cotta (หวานเป็นนมเกินไปหน่อย) Taro Dome (ดูธรรมมากไปหน่อย แต่น่าสอยมากินในโอกาสหน้า) Berry Jelly (เมนูนี้บ้านจัด ไม่แน่นำให้สั่ง) และ Melt-me Gelato Cheesecake มีให้เลือกระหว่างรสอัญชัน-เบอร์รี่ หรือ ตะไคร้-กีวี นี่มันรส Double drink ชัดๆ แต่ขอบอกว่าโดยส่วนตัวมันไม่อร่อยทั้ง 2 อย่างเลยอ่ะ หน้าตาดูดี แต่รสชาติ ไช้ชวนชิมไม่ให้ผ่านครับ
เครื่องดื่ม: มีให้เลือกทั้งแบบร้อน (กาแฟ หรือชาส้มโอ) และแบบเย็น (กาแฟเย็น บลูเลมอน สตรอเบอร์รี่โซดา และกีวีโซดา)
สรุปโดยรวมผมว่านี้เป็นมื้อที่คุ้มราคา ให้ 4 ดาวไปเลยสำหรับอาหารและความหลากหลายที่ไม่ได้มีให้เลือกมากจนไม่รู้จะกินอะไร แต่พอนานวันไปมันจะเบื่อรึเปล่าก็ไม่รู้นะ หวังว่าทางร้านเขาคงเพิ่มหรือปรับเมนูบ้าง ให้เราได้ลิ้มลองของใหม่แบบไม่จำเจ แต่ที่เห็นจะต้องติกันอย่างมิตรภาพคือ เมนูของหวานคุณยังไม่ได้ไปต่อนะครับ คือแบบเราคาดหวังมากกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องอร่อยถึงขั้น Coffee Beans แต่ขอให้มันอร่อยชวนฝันเป็นการตบท้ายมื้อสุดวิเศษ ของอร่อยบางครั้งไม่ต้องแปลก วิจิตรมาก ขอให้หน้าตาดูได้แล้วรสชาติผ่านการคอนเฟิร์มจากนักชิมขนมหวานตัวยง ถ้าไม่รู้จะเสิร์ฟอะไร ผมแนะนำให้เสิร์ฟ Coated Chocolate Ball ที่มีใส้เป็นไอศครีมวนิลา แค่นี้ก็เอาอยู่แล้วสำหรับมื้อนี้ (เมนูนี้อร่อยเด็ดมากที่ร้าน The Table ที่รร.ไฮแอทเอราวัน)
Featuring Menu at Tokiya
ชิมเสร็จแล้วต้องเอ่ยปากชมว่าเขาดีไซน์ประสบการณ์ที่ร้านได้ดีมาก อาหารทั้งเซ็ตนี้ใช้เวลากินนานเป็นชั่วโมง เพราะเขาจะละเลียดเสิร์ฟออกมาทีละจานโดยสังเกตว่าเราพร้อมสำหรับเมนูถัดไปแล้วรึยัง ร้านนี้เขาใช้พนักงานเยอะพอควรเพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ทันเวลา ข้อเด่นของร้านนี้มีดีที่อาหารอร่อยและบริการที่เหนือมาตรฐานร้านอาหารทั่วไป แต่ผมว่าก็ยังแพ้โรงแรมอยู่ พนักงานบริการดูกระฉับกระเฉง แต่หลายคนหน้าตายังไม่ผ่านเกณฑ์นะครับ (โปรดปรับปรุง) อยากให้ลองมาทานกันดูครับ มือไดโว่ไม่ต้องมาเพราะคุณอาจจะไม่อิ่ม เด็กเล็กเก็บไว้ที่ผ่านเพราะน้องเขาอาจจะไม่มีความอดทนในการรออาหารมากพอ บวกกับประเภทเมนูไข่เจียวคุณหนูเขาไม่มีให้กินที่นี่ ทางที่ดีชวนกันมาในกลุ่มเพื่อนฝูง นักธุรกิจ หรือคู่รักก็พอครับ
จิบชากินข้าว อัดซูชิเต็มปากอิ่มมากไปถึงอีกวัน
บรรยากาศร้าน Drinking tea Eating rice ชั้น 2 ของโรงแรมคอนราด
ผมว่าร้านนี้ชื่อมันดูไม่ค่อยสื่อถึงความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเท่าไหร่ ถ้าเป็นร้านอาหารไทยเช่น “กับข้าวกับปลา”, “ข้าวแกงของยาย”, “บ้านคุณพ่อ เรือนหอคุณแม่” ก็ฟังดูเข้าใจถึงความเป็นกันเอง ง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องมีคอนเซ้ปต์อะไรเยอะ แต่ร้านนี้อยู่ในโรงแรม เราก็คาดหวังว่าเขาจะใช้ชื่อภาษาญี่ปุ่นที่เราไม่เข้าใจความหมาย แต่นี่เล่นเอาง่าย “จิบชากินข้าว” แล้วคนทั่วไปจะรู้มั๊ยนี่ว่ามันคือร้านชูชิ เทปันยากิ ที่อยู่ใน รร. 5 ดาวใจกลางเมือง
แต่ถึงจะไม่ปลื้มชื่อเท่าไหร่ แต่อาหารเขาถือว่า “ดีขั้นเทพ” ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทานข้าวปั้น ปลาดิบสักเท่าไหร่ แต่มาที่นี่ทีไร มีอันต้องไปวิ่งสายพานเอาข้าวเหนียวออกจากท้องให้ได้มากที่สุด
ร้านนี้เขาจะแบ่งเป็น 3 section, section แรกเป็น sushi bar นั่งทานรอบ counter แบบจ้องหน้าเชฟไปกินไป เมื่อไหร่จานของฉันจะมาซะที section ที่สองเป็นพวก เทปันยากิ นั่งล้อมรอบเหมือนกันสำหรับคนที่ชอบทานอาหารจานร้อน และ section ตรงกลางระหว่างนั้นคือที่นั่งสำหรับคนที่สั่งอาหารเป็นแบบ a la carte
วันนี้ผมขอรีวิวอาหาร All you can eat Sushi Counter Lunch นะครับ ว่าวัฒนธรรมการกินที่นี่เป็นอย่างไรกันบ้าง อะไรควรสั่ง อะไรควรเลี่ยง ถ้าพร้อมแล้วเรามาปั้นข้าวกินกันครับ
อาหารมื้อนี้จัดได้ว่าแพงใช้ได้ทีเดียว 980++บาทต่อคน ถ้ามีบัตรสมาชิก รร.จะคุ้มมาก เพราะว่า กิน 2 จ่าย 1 ตกเฉลี่ยต่อคนก็จะเหลือเพียง 600 กว่าบาท หากว่าคุณจะจ่ายราคาเต็ม แนะนำให้ล้างท้องก่อน 1 วัน แล้วเลือกสั่งเมนูที่หากินยากตามร้านญี่ปุ่นทั่วไป
ที่นี่เป็น All you can eat Sushi Buffet ที่แปลกกว่าที่อื่นตรงที่ เขาจะมี Sashimi ปลา 5 ชนิด, Wafu Salad , ไข่ตุ๋นและมิโซซุปเสิร์ฟให้เพียง 1 ชุดต่อคน จากนั้นให้คุณเลือกสั่งซูชิตามเมนูได้แบบไม่อั้น เรื่องของเรื่องคือเขาต้องการให้คุณจุกอิ่มกับข้าวเหนียวซึ่งบรรจุอยู่ในเมนูข้าวปั้นทุกชนิด ถ้าเกิดคนสั่งแต่ Sashimi ร้านคงเจ๊งกันพอดี เรื่องแบบนี้ห้ามดูถูกพี่ไทยเป็นอันขาด หลายร้านเจ๊งกับการขายอาหารบุฟเฟต์มาแล้ว เนื่องจากประเมินศักยภาพของนักกินแบบจับกังของพี่ไทยน้อยไป เพราะพี่ไทยไม่ได้กินแค่อิ่มธรรมดา ต้องอิ่มถึงขั้นอีกคำเดียวทะลุออกจากคอหอย
เอาล่ะเราลองมาดูว่าเขามีซูชิอะไรให้เราทานบ้าง
Funky Sushi Roll ข้าวปั้นแบบม้วน หรือแบบพอดีคำ: Yellow Tail, Tuna, Salmon, White meat fish, Squid, Marinate mackerel, Surf shell, Scallop, Grilled eel, Prawns, Octopus, Mock crab stick, Japanese omelet, Tuna roll, Cucumber roll, Pickle roll, Salmon roll, California roll, Spicy tuna roll, Salmon skin roll ลำพังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็กินแทบไม่หมดแล้ว แต่ที่แนะนำให้ทานเป็นพิเศษคือเมนู Seared Shusi Set ข้าวปั้นหน้าปลาดิบที่นำไปลมควัน หน้าที่อร่อยคือปลาทูน่า แซลมอน ปลาเนื้อขาว ส่วนประเภท Roll ให้สั่ง Special California Roll แล้วโรยหน้าด้วยหนังปลากรอบ ถ้าคุณโชคดีชวนเชฟคุยจนถูกปากเขาอาจควักข้าวปั้นนอกเมนูมาให้ทานเช่น ข้าวปั้นหน้าปลาโทโร่ กินไป 3 คำก็ 1500 แล้ว พอเริ่มสะอิดสะเอียนกับข้าวปั้นหน้าบ้านๆ แล้ว ลองตื๊อให้เชฟทำข้าวปั้นสูตรพิเศษให้ทาน ผมได้มาเพิ่ม 2 เมนูคือ Cucumber roll ที่เอาเนื้อแตงกวามาม้วนแทนสาหร่าย สอดใส้ปลา ไข่ม้วน และปูอัด โดยไม่ต้องยัดข้าวเหนียวเป็นใส้กลาง แถมโรยไข่กุ้งแบบทะลักทะลวง โอโห้อิ่มและเบาท้องมากจานนี้ และอีกจานนึง ผมบอกให้เชฟช่วยทำอะไรก็ได้ที่ไม่อยู่ในเมนู เอาแบบหน้าตาดีๆ อร่อยไม่ซ้ำแบบใคร เชฟถึงขั้นต้องออกจาก Sushi Bar ไปให้เนื้อปลาสดและวัสดุอุปกรณ์เพิ่มเติมมาทำให้เราทาน สรุปที่ได้มาคือ เนื้อปลาแซลมอนอย่างดีเอามาห่อข้าวเหนียว สอดใส้หอยเชลล์และหน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) ปรุงรสด้วยมายองเนสครีมและโรยหน้าด้วยหนังปลากรอบ สุโค่ยมาาาาาก พูดแล้วต้องปาดน้ำลายอีกครั้ง
Funky Temaki-handroll ข้าวปั้นแบบกรวย: เมนูนี้ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันเพราะใครๆ ก็รู้ว่าถ้าสั่งข้าวปั้นแบบกรวยที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้วยนึงราคาก็น่าจะเป็นร้อยอยู่ ที่ให้คุณเลือกได้ก็มี Spicy Salmon roll, Spicy Scallop roll, Unaki Roll, Sanzoku roll, Avocado roll และ Daily funky handroll หากคุณจะเลือกทานแบบกรวยแนะนำให้สั่งไม่ซ้ำกัน บางทีอาจจะระบุไปเลยก็ได้ว่า กรวยนี้ขอใส่ปลาแซลมอน อโวคาโด และโรยหน้าไข่กุ้ง หรือไม่งั้นก็สั่งแบบรวมมิตรปลา แนะนำให้ทานโดยทันที อย่าสั่งมากองไว้เพราะแผ่นสาหร่ายจะนิ่มเกินไป รวมเบ็ดเสร็จแล้วโดยเฉลี่ยคนทั่วไปน่าจะทานกรวยนี้ได้ประมาณ 5-7 อัน ถ้าใครมีความสามารถพิเศษมากกว่านั้น ก็เชิญตามสบายครับ
จริงๆ มีรูปที่ถ่ายมามากกว่านี้ แต่กลัวคุณเชฟจะเดือดร้อน โทษฐานทำงานเกินหน้าที่เสิร์ฟของดีนอกเมนูที่ให้สั่ง เอาเป็นว่าอยากทานของดี ต้องผูกมิตรกับเชฟไว้ อย่าตั้งท่ากินให้คุ้มอย่าเดียว แต่กินกันให้สนุก สอบถามโน่นคืออะไร อันนี้เอาไปทำอะไรได้บ้าง ถ้าเชฟเกิดถูกใจอาจปั้นของดีที่คิด improvise กันแบบสดๆ เดี๋ยวนั้น เพื่ออรรถรสในการทาน แนะนำให้ไปในช่วงกลางวัน วันธรรมดา ถ้าเป็นวันเสาร์ควรจองล่วงหน้า วันอาทิตย์ควรเลี่ยงเพราะเราต้องแข่งขันกับคนหมู่มาก อาจทำให้ได้กินแต่ของเพลนๆ
สรุปแล้วมือซูชิไม่ควรพลาด ลองดูครั้งหนึ่งแล้วคุณจะติดใจ สำหรับที่นี่ผมจัดให้ 5 ดาวไปเลย เพราะนอกจากอาหารอร่อย บริการดี เรายังสนุกกับการคิดเมนูใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยได้กินที่ไหนอีกด้วย สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่มีบัตรสมาชิกโรงแรม แนะนำให้ไปหยิบยืมเพื่อนที่เป็น Mr หรือ Miss เหมือนกันหรือไม่ก็สมัครใหม่ไปเลย เพราะนอกจากคุณจะใช้เป็นส่วนลดที่นี่ได้แล้ว ยังอาจดอดไปกินติ๋มชำที่ห้องอาหารหลิว (Liu) หรือ International Buffet ที่ Cafe @2 ในคราวหน้าได้อีกด้วย
Bonne Appetit ครับ ก่อนจบบล็อกนี้ ผมขอฝากแนะนำให้เพื่อนๆ ลองไปอ่าน review และชมเมนูจานเด็ดเพิ่มเติมได้ที่ Wongnai ที่มี App สำหรับการค้นหาร้านอาหารได้ทั้งบน iPhone และ iPad ผมลองใช้ดูแล้วง่ายมาก เพราะถ้าคุณเปิด Location-based Service แล้ว App จะช่วยหาร้านอาหารในบริเวณข้างเคียง โดยคุณสามารถทำ Customized Search ได้ด้วยการระบุประเภทร้านอาหาร
Wongnai แนะนำร้านอาหารในบริเวณ พื้นที่ใกล้เคียง
Tokiya food review
Drinking Tea Eating Rice Food Review
นอกจากนี้คุณเองก็สามารถถ่ายรูป เขียนโพสต์คอมเมนต์หรือรีวิวร้านอาหารแล้วแชร์ให้เพื่อนๆ คนอื่นใน Social Network ได้ดูผ่าน twitter และ facebook ได้อีกด้วย ผมเพิ่งลองเล่นดูก็เลยได้ฤกษ์ Review ร้านอาหารทั้ง 2 ที่นี้ไว้ใน Wongnai เหมือนกันครับ
เสียดายที่ตอนเขียนโพสต์เข้าไปแล้วไม่สามารถกลับไปแชร์ได้อีกครั้ง ฝากคนทำ app ช่วยดูแลเผื่อว่าการแบ่งปันของคนชอบกิน จะสนุก มันส์ และฮามากขึ้น
สำหรับเพื่อนๆ ท่านใด ถ้าติดใจชอบพอกัน อยากติดตามผลงานของ ไช้ชอบชิม ชวนแชะ ชิลล์ ช้อป ก็กด Follow ได้ที่ @somchartlee เลยครับ หวังว่าคงจะมีร้านใหม่ๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองทานกันอีกนะครับ
สุดท้ายขอให้เพื่อนๆ ทุกคนมีความสุขกับการตระเวนหาของอร่อยๆ กินทั่วไทย แล้วแอบมากระซิบบอกกันมั่ง เผื่อไช้จะตามไปชิมแล้วช่วยกันแชร์ต่อให้กับเพื่อนๆ คนอื่นด้วยคร้าบบบบ
Love at First Bite BUT If I Like, I will Eat Non-Stop 555 🙂
ที่นี่มีเรื่องเล่า 